หลายคนคงทราบกันบ้างแล้วนะคะว่า การขุดเหมืองคริปโตเคอเรนซี่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและล่าสุดมีข้อมูลที่น่าสนใจออกมาบอกเขาว่าการโอนเงินคลิปโตเพียงแค่ครั้งเดียวนั้นสร้างขยะเทียบเท่ากับ iPhone 12 Mini จำนวน 2 เครื่องเลยทีเดียวค่ะ
ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารด้านสิ่งแวดล้อม resources conservation and recycling เผยว่าขยะที่ มาจากการทำเหมือง bitcoin ในปัจจุบันนั้นมีมากกว่า สามหมื่นเจ็ดร้อย ตันต่อปีค่ะ
ขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดขึ้นจากการทำเหมืองคริปโตนั้นมาจากเครื่องประมวลผล A10 ซึ่งเป็นชิปคอมพิวเตอร์ที่ได้รับความนิยมในโรงงานทำเหมืองขุดคริปโตขนาดใหญ่ๆ เพราะมีกำลังการประมวลผลสูงและสร้างผลตอบแทนได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วค่ะแต่การขุดหรือถอดรหัสเงินคริปโตที่ยิ่งทำมากเท่าไหร่
ก็ยิ่งมีโอกาสได้มากเท่านั้นก็เลยทำให้อุปกรณ์เหล่านี้ถูกเปิดใช้งานตลอดเวลาและจากการที่มันต้องทำงานหนักตลอด 24 ชั่วโมงก็เลยทำให้มีอายุการใช้งานเฉลี่ยเพียงแค่ 1.29 ปีเท่านั้นนะคะ
ซึ่งถือว่าค่อนข้างสั้นดังนั้นพอหมดอายุก็กลายมาเป็นขยะที่ไม่มีใครต้องการค่ะอย่างไรก็ตามไม่ใช่แค่ขยะจากการขุดเหมืองคริปโตเคอเรนซี่เราต้องเผชิญนะคะแต่การทำธุรกรรมอย่างการโอนเงินคริปโตในแต่ละครั้งอย่างสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์ถึง 272 กรัมซึ่งตัวเลขนี้เทียบเท่ากับไอโฟน 12 Mini ถึง 2 เครื่องค่ะ
ดูแล้วอาจเป็นปริมาณที่เล็กน้อยนะคะแต่ผลสำรวจในปี ค.ศ. 2020 พบว่ามีการทำธุรกรรมเงินคริปโตเฉพาะบิทคอยสูงถึง หนึ่งร้อยสิบสองล้านห้าแสน ครั้งดังนั้นภายใน 1 ปีจะมีขยะหนักไม่ต่ำกว่า 3600 ตันหรือเท่ากับ iPhone 12 mm จำนวนหลายล้านเครื่องต่อปีเลยค่ะ
ส่วนในปี ค.ศ. 2021 ก็มีการคาดเดาว่าจะมีขยะอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นช่วงกลางปีเป็น 64,400 ตันเลยทีเดียวแน่นอนว่าขยะอิเล็กทรอนิกส์คราวนี้จะสร้างปัญหาในระยะยาวนะคะเพราะกระบวนการกำจัดขยะอาจจะทำให้เกิดสารโลหะหนักปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมดังนั้นก็เป็นไปได้
เพราะว่าในอนาคตจะมีการจัดการกับปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดขึ้นจาก bitcoin ที่ดีขึ้นหรืออาจจะมีการเปลี่ยนกระบวนการขุดใหม่เพื่อเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนมากขึ้นค่ะ
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าในขณะนี้มีหลายประเทศกำลังเริ่มที่จะทำการวิจัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนวิธีการสร้าง bitcoin สกุลเงินดิจิตอลรวมถึงมีบางประเทศที่มีการต่อต้านการใช้สกุลเงินดิจิตอลหรือ bitcoin เพราะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของประเทศเป็นอย่างมากเลยทีเดียวซึ่งในประเทศที่มีการออกมาต่อต้านการใช้สกุลเงินบิทคอยน์อยู่ในตอนนี้ก็คือประเทศจีนนั่นเอง
สนับสนุนเรื่องราวโดย. เว็บหวย ไม่มี เลขเต็ม เลขปิด